Thursday, December 22, 2005

เพลงรักทำให้เราตาสว่าง



แม้ชื่อภาษาอังกฤษของหนังสือเล่มนี้ The Art of writing Love songs จะว่าด้วยการเขียนเพลงรัก หากแต่ว่าเนื้อหาภายในเล่มกลับว่าด้วยเรื่องความรักที่น่าสนใจในรูปแบบต่างๆ ด้วยที่ผู้เขียนมีความเชื่อว่า การจะเขียนเพลงรักให้ได้ดีนั้น จำต้องเรียนและรู้จักความรักทุกรูปแบบ ทุกแง่มุมเสียก่อน จึงจะสามารถสร้างเพลงรักที่ซาบซึ้งและเข้าถึงหัวใจผู้ฟังได้ แม้ว่าการยกตัวอย่างเพลงในหนังสือเล่มนี้จะเป็นเพลงภาษาอังกฤษแต่
คุณเมฆฝน ผู้รับภาระถอดความก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างแนบเนียน แต่ประเด็นสำคัญของหนังสือกลับไม่ได้อยู่ตรงนั้น หนังสือเล่มนี้ไม่ได้พยายามสอนให้คุณเขียนเพลงจากภาษาอังกฤษ หากแต่เป็น มุมมอง วิธีคิด วิธีหาข้อมูลที่จะนำมาเขียนเพลงต่างหาก ที่เป็นประเด็น เพลงภาษาอังกฤษที่ยกตัวอย่างมานั้นก็เพื่อช่วยทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นเท่านั้น หากคุณเป็นนักเขียนเพลงอยู่แล้ว หรือหากกำลังอยากจะหัดเขียนเพลง หนังสือเล่มนี้น่าจะช่วยให้คุณเข้าใจ”ความรัก” ได้มากยิ่งขึ้น และน่าที่จะช่วยให้คุณเขียนเพลงรักที่จับใจใครต่อใครได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นนักแต่งเพลง ไม่ได้อยากเป็นนักแต่งเพลง หนังสือเล่มนี้ก็ยังอ่านสนุกอยู่ดี
เราทุกคนคงเคยรู้จักความรักกันมา มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่โอกาส ทุกคนคงเคยถูกเจ้าความรักนี้ ”กระทำ”
ไม่ว่าจะ “กระทำดี” หรือว่า “กระทำร้าย” เราได้พบกับความรู้สึกมากมายทั้งสุข เศร้า เซ็ง ตื่นเต้น ผิดหวัง สมหวัง
เริงร่า กินไม่ได้ นอนไม่หลับ หรือกินไม่อั้น ฝันดีทั้งคืน ไม่น่าเชื่อว่า เจ้าความรักตัวนี้จะมีอิทธิพลต่อชีวิตเราได้มากมายขนาดนั้น เพลงรัก ถูกสร้างขึ้นมาเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เป็นเครื่องปลอบประโลมใจในยามที่รู้สึกเจ็บจากความรัก(เพลงรักที่โด่งดังมักจะทำหน้าที่นี้ ส่วนเพลงรักที่แสดงความยินดีในยามรักสมหวังมักจะประสบความสำเร็จน้อยกว่า)
ทุกครั้งที่เจ็บปวดมาจากความรัก มนุษย์เยียวยาตัวเองด้วยเพลงรัก
เช่นนี้อาจจะกล่าวได้ว่า ถ้าความรักทำให้คนตาบอด เพลงรักน่าจะช่วยให้คนเราตาสว่างขึ้น และนี่คือที่มาของ “เพลงรักทำให้เราตาสว่าง” เล่มนี้

คำนิยมโดยบอยตรัย
ว่ากันว่า ความรักจะทำให้คนตาบอด
คนเขียนเพลงรัก อาจจะต้องข่มตาให้บอดอยู่บ่อยๆ บอดเพราะเราอาจจะไม่รู้จักมันเพียงพอ และในความบอดมืดนั้นบางคนจึงต้องคลำหาเทียนเพื่อเอาไว้ไปนั่งเขียน แต่ใครจะรู้ หนทางสู่ความเข้าใจในความรักนั้น อาจจะไม่ใช่ในโลกมืดมิดข้างนอกนั้นหรอก เพียงแค่กลับเข้ามาค้นหาภายในจิตใจของตัวเอง ลองทำความรู้จักพื้นฐานของจิตใจและความต้องการของเราในหลายๆ แง่มุมดูบ้าง บางครั้งก็อาจจะเกิดมุมมองในความรักที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้สอนวิธีการเขียนเพลงรักอย่างสำเร็จรูป แต่เป็นคล้ายๆ จิตแพทย์ที่นั่งสอบถามนักแต่งเพลงอยู่ข้างๆ เตียง คอยจดว่าพวกเขาคิดอะไรและคิดอย่างไรในตอนที่แต่งเพลงเหล่านั้น โดยการรวบรวบเอาตัวอย่างของมุมมองของเพลงในหลายๆ แง่มุม ที่มาที่ไปของกระบวนการ และภาพที่อยู่ในหัวของนักแต่งเพลงออกมาให้เราเห็น

คำนิยมโดย วิภว์ บูรพาเดชะ
บรรณาธิการบริหาร HAMBURGER

ผมเคยมีประสบการณ์คลุกคลีกับการแต่งเพลงอยู่บ้าง จึงรู้สึกสนใจไม่น้อยเมื่อพี่ป้อม-บวรศักดิ์ จำปาวัลย์ ส่งต้นฉบับ "เพลงรักทำให้เราตาสว่าง" มาให้อ่าน
ในเบื้องแรกนั้นสนใจเพราะอยากรู้ว่า หนังสือที่เหมือนคู่มือสอนการแต่งเพลงรักเล่มนี้ จะสอนกลวิธีขั้นตอนในการแต่งเพลงที่เหมือนหรือต่างจากที่ผมเคยได้เรียนรู้และเคยได้ใช้มาหรือไม่
แต่เมื่ออ่านๆ ไป ผมกลับพบว่า "เพลงรักทำให้เราตาสว่าง" ไม่ได้พูดถึงการแต่งเพลงรักเสียทีเดียว
ระหว่างการเดินทางข้ามบรรทัดสู่อีกบรรทัด ผมกลับได้ทำความรู้จักกับวิธีการมองดูความรักในมุมมองที่ลึกซึ้ง ละเอียดอ่อน และแปลกใหม่ โดยวิธีการมองความรักดังกล่าวนั้น มีจุดประสงค์เพียงเพื่อจะทำให้เราสามารถแต่งเพลงรักได้ดีนั่นเอง
หนังสือเล่มนี้พาเราไปสำรวจความรักในแง่มุมต่างๆ พาเราไปตั้งคำถามและหาคำตอบของตัวเอง ชักชวนเราให้หันไปมองดูผู้คนด้วยมุมมองที่แปลกใหม่ และพาเราเดินมุ่งหน้าไปสู่โลกจินตนาการที่เราอาจไม่เคยคิดว่ามันมีอยู่จริง
ด้วยความที่บทเพลงทั้งหลายที่ใช้อ้างอิงเป็นเพลงสากล และเนื้อหาก็เน้นไปที่การเขียนเนื้อเพลงเสียมากกว่าการแต่งทำนอง ผมจึงไม่แน่ใจว่า หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบลงจะทำให้คุณเขียนเพลงรักแบบไทยๆ ในท้องตลาดได้หรือเปล่า แต่ในมุมกลับ ก็ต้องขอแสดงความนับถือกับผู้แปลที่พยายามถ่ายทอดภาษาต่างประเทศออกมาเป็นภาษาไทยได้กินใจขนาดนี้
ลองดูประโยคนี้อีกทีนะครับ "เพลงรักทำให้เราตาสว่าง" ฟังเผินๆ แล้วนี่อาจจะเป็นประโยคที่ฟังดูแล้วไม่สมเหตุสมผลนัก แต่หากลองได้อ่านหนังสือเล่มนี้ดู แล้วลองเขียน 'เพลงรัก' ของคุณเองขึ้นมาสักเพลง คุณจะพบว่า 'เพลงรัก' ทำให้คุณ 'ตาสว่าง' ได้จริงๆ
และอาจทำให้คนที่คุณอยากบอกรัก 'ตาสว่าง' ได้ด้วยซ้ำ
ผมอ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้วครับ และผมกำลังจะเขียนเพลงรักอีกครั้ง

1 comment:

Unknown said...

i've felt passion,i've felt happiness,i've felt moved by music...but nothing feels like love :)